Ivory Coast Almond – เทรนด์ คาเฟ่กรุงเทพ ยังไปได้ต่ออีกเยอะ อย่างย่านเสนานิคม เขามีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ เยอะจนละลานตาไปหมด เอาจริงๆ ไปย่านเสนาฯ ก็ไม่รู้ว่าจะแวะร้านไหนดี วันนี้เราจะพาไปเช็คอิน ไปฟินกับร้าน Ivory Coast Almond ร้านอาหาเปิดใหม่ สไตล์คาเฟ่ ที่พูดได้เต็มปากว่าได้รูปสวยแน่นอน แล้วที่สำคัญคือเพิ่งเปิดได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น แต่รสชาติอาหารอร่อยเด็ด จัดจ้านในย่านเสนามาก เพราะได้ความเก๋าจากเชฟที่เชี่ยวชาญในเรื่องของอาหารสไตล์เวสเทิร์น เพิ่มความโดดเด่นด้วยการผสมผสานความท้องถิ่นลงไปด้วยได้อย่างลงตัว ทำให้เมนูอาหารที่ร้าน Ivory Coast Almond มีรสชาติเด็ดแบบไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบที่คุณภาพ เน้นความออร์แกนิคจากโครงการหลวง และปรุงอาหารทุกจานด้วยกรรมวิธีโฮมเมดทุกเมนู มาพร้อมกับบรรยากาศร้านสวยสไตล์คาเฟ่ แสนอบอุ่น เหมือนได้มากินข้าวที่บ้านญาติเลย
เมนูอาหาร แนะนำ ร้าน Ivory Coast Almond
1.Ivory Coast Almond – ไก่บาร์บีคิวปิ้ง เสียบไม้ โฮมเมด (220 บาท)
เริ่มต้นด้วยเมนูกินเล่นเรียกน้ำย่อยกันหน่อยสำหรับเนื้อไก่จะใช้เป็นส่วนเนื้ออกไก่ แต่ย่างไว้อย่างพอดีเลย มีความชุ่มช่ำของซอสทำให้เนื้อไก่ไม่แห้งความอร่อยจากด้านนอกซึมเข้าเนื้อใน ไก่นุ่มกินเพลินเสิร์ฟมาพร้อมกับซอสบาบีคิวสูตรเด็ดจากเชฟ และผลไม้เครื่องเคียง
2. Ivory Coast Almond – แอปเปิ้ลเขียว แกรนนี่ สมิท เสิร์ฟกับน้ำปลาหวาน (150 บาท)
แสนสดชื่น เหมาะกับช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ความอมเปรี้ยวของแอปเปิ้ลเขียวนำเข้าจากอเมริกา วางบนน้ำแข็งมีความเย็นๆ เบาๆ กินคู่กับน้ำปลาหวานสูตรพิเศษที่รสชาติเข้มข้น เครื่องแน่นกินเพลินมาก
3.Ivory Coast Almond – เฟรนด์ฟราย เสิร์ฟมาพร้อมเชดด้า ชีส (150 บาท)
ไม่ว่าจะเด็กหรือวัยไหนก็ชอบกินมากสำหรับเมนูนี้ ดูที่หน้าตาก็เฟรนด์ฟรายทอดทั่วไป แต่กรรมวิธีการทำของเขาโฮมจริงๆ มันฝรั่งออแกนิกที่ทางเชฟนำมาปอกเปลือกและหั่นเอง พร้อมด้วยซอสดิปสูตรพิเศษที่เพิ่มความไม่ธรรมดาให้กับเจ้าเฟรนด์ฟรายทอดนี้ด้วย
4. Ivory Coast Almond – สลัดร็อคเก็ตสดโรยหน้าด้วยปลาข้าวสารจากชุมพร (290 บาท)
สายสุขภาพ ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เราขอแนะนำเมนูนี้เลย สลัดเบาๆ กินสวยๆ ทั้ง ผักร็อกเก็ตสด ฟักทองญี่ปุ่น ท็อปด้วยปลาข้าวสารจากท้องถิ่นชุมพรภาคใต้บ้านเรา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเชฟแป้งเชฟสุดเก๋าของที่นี่ ราดด้วยน้ำซอสสูตรเด็ด ทั้งผักสดและน้ำซอสที่อร่อยทำให้เราเผลอกินหมดจานแบบไม่รู้ตัว
5. Ivory Coast Almond – หอยเชลล์อบเนยกับผักโขม (250 บาท)
ที่สุดของความกลมกล่อม รสชาติเข้มข้น หอยเชลล์ตัวโตแบบคับปาก สวยทั้งหน้าตา การจัดวางเมนู แล้วรสชาติก็อร่อยถูกปากมาก เราได้ลองแบบที่ไม่บีบเลม่อนก็ว่าอร่อยแล้วนะ แต่พอลองบีบเลม่อนลงไปอีกนิด คุณๆ มีความอมเปรี้ยวเบาๆ เข้ากันดีเหมือนกัน อยากให้ลองดู
6. Ivory Coast Almond – ซีซาร์สลัดซิกเนเจอร์ Ivory Coast Almond (290 บาท)
Ivory Coast Almond ฉีกกฎซีซ่าสลัดมาก ปกติที่เรากินจะเป็นผักสดราดด้วยซอสซีซ่า หรือบางที่อาจจะแยกซอสน้ำสลัดมาให้ แต่สำหรับที่นี่มีทั้งผักสด ผักทอด ไข่ต้ม ขนมปังกรอบชิ้นโตแบบกรุบเต็มคำ เสิร์ฟมาพร้อมซอสซีซ่าสูตรเด็ดของที่นี่
7. Ivory Coast Almond – หอยแมงภู่ดำอบในซอสไวน์ขาว เสิร์ฟกับเฟรนซ์ฟรายโฮมเมด (320 บาท)
สำหรับเมนูนี้ของร้าน Ivory Coast Almond ชื่อเมนูอาจจะยาวไปนิด แต่ก็กินอร่อยได้แบบยาวๆ สมชื่อเมนูเลย หอยแมงภู่นำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ ไซส์น่ารักพอดีคำ อบในซอสไวน์ขาวซึ่งน้ำซอสสามารถซดกินเล่นได้เลยรสชาติพอดีมาก มาพร้อมกับเฟรนช์ฟรายโฮมเมดแสนอร่อยเช่นเคย
8. Ivory Coast Almond – ค็อกเทลกุ้งดูโอ (250 บาท)
เป็นเมนูของ Ivory Coast Almond ที่ไม่อยากให้พลาด สำหรับ กุ้ง 2 แบบ 2 สไตล์ ที่เสิร์ฟมา 2in1 เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสรสชาติพิเศษ แนะนำให้กินน้องกุ้งในแก้วก่อนจากนั้นก็ขยับมากินกุ้งอีกฝั่งรสชาติจะได้ไม่โดนกลบ ด้วยความที่รสชาติพล่ากุ้งเข้มข้น ถ้ากินเขาก่อนรสชาติของกุ้งในแก้วที่เสิร์ฟมาสไตล์คอกเทลจะต้องโดดกลบหมดแน่นอน จะทำให้เราสัมผัสรสชาติเต็มๆ ของเขาไม่ได้
9. Ivory Coast Almond – ปาปาเดล โฮมเมด เป็ดอบซอสคะน้าฮ่องกง (320 บาท)
ต้องบอกว่า เมนูของ Ivory Coast Almond จานนี้เรียกได้ว่า ทุกอย่างในจานลงตัวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรสชาติที่อร่อยพอดี แบบไม่มากไปอิ่มอร่อยพอดีสำหรับ 1 คน ความเจ๋งคือเส้นสนของปาปาเดลนี่แหละ ลวกไว้ได้อย่างนุ่มพอดีไม่เละเกินไปเมื่อเจอซอส เนื้อเป็ดนุ่มหนึบกินเพลินไปจนถึงคะน้าฮ่องกงที่นุ่มไม่แพ้เป็ดเลย
10. Ivory Coast Almond – ซี่โครงเนื้อแดดเดียวซอส Ivory Coast almond (590 บาท)
ใครชอบกินเนื้อวัวต้องจัดเมนูนี้แล้วหละ จะบอกว่าวันนั้นที่ไปเขาคือพระเอกเลยก็ว่าได้ ตุ๋นเนื้อไว้แบบเปื่อยนุ่ม ชนิดที่สามารถพูได้เลยว่าละลายในปาก คือรสชาติที่เชฟทำมาคือพอดีแล้วนะ แต่เขามีซอสมาให้เราได้เติมความอร่อยเพิ่มด้วย ทั้งซอสพริกศรีราชาที่เราคุ้นเคยแต่กินกับเนื้อแล้วอร่อยเกินคาด และน้ำจิ้มแจ่วรสจัดจ้านแซ่บสะดิ้งในแบบไทย
11. Ivory Coast Almond – ต้มข่าไก่ ราวิโอลี ปลาสลิด (320 บาท)
เราจะบอกว่า เชฟแป้ง คือความเจ๋งเรื่องการทำอาหารฟิวชั่นจริงๆ แหละ ใครจะไปรู้ว่าต้มข่าไก่มาสไตล์แบบแห้งๆ มีความขลุกขลิกเล็กน้อย ตกแต่งเมนูไว้สวยงามแบบไฟน์ไดนิ่งอยู่นะ ราดบนราวิโอลี โฮมเมด ท้อปด้วยปลาสลิด และผักสดที่กินแล้วเข้ากันดี
12. Ivory Coast Almond – เนื้อวากิวกับแกงเขียวหวานรีซอตโต้ (550 บาท)
สารภาพว่า ส่วนตัวไม่ค่อยชอบรีซอตโต้เท่าไร แต่ครั้งนี้เปิดใจเพราะค่อนข้างแปลกใหม่เป็นแกงเขียวหวานรีซอตโต้ นอกจากเปิดใจแล้วก็เปิดโลกมาก ทุกคนนนนนอร่อยยยยแบบเกิดคาดหมายมาก คือไม่คิดว่าจะเข้ากันได้อารมณ์เหมือนข้าวผัดแกงเขียวหวาน แต่ที่นี่เขาทำไว้อย่างเข้มข้นจัดจ้านแบบเขียวหวานสไตล์ไทยบ้านเรา มิกซ์กับสไตล์อิตารีของรีซอตโต้ ต้องปรบมือให้เชฟเขาละ ท้อปด้วยเนื้อวากิวระดับสุกกลาง โคตรดีถ้าคุณชอบกินเนื้อจัดค่ะ
อย่ามัวแต่เพลิดเพลินอาหารคาวจนอิ่มแล้วลืมเหลือพื้นที่ให้กับเมนูของหวานด้วย Ivory Coast Almond ครบเครื่องจริงๆ เพราะนอกจากละลานตาด้วยเมนูอาหารคาวแล้ว ก็ได้อร่อยปิดท้ายด้วยขนมหวานหลากหลายเมนูอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โฮมเมด บลูเบอร์รี่ แพนเค้ก (220 บาท) แป้งปพนเค้กคือนุ่มชนะเลิศมากค่ะ พานนา ค้อตต้า มะพร้าว (250 บาท) หวานมันมีความไทยอยู่เบาๆหรือจะเป็น ข้าวเหนียวมะม่วงเสิร์ฟกับไอศกรีมเชอร์เบทมะม่วง และเชอร์เบทมะพร้าวอ่อน (250 บาท) มะม่วงน้ำดอกไม้มันที่สุกเต็มที่หวานชื่นใจกินคู่กับไอศกรีมเชอร์เบทเพิ่มความชื่นใจได้อีกคูณ2
เอ้า! เกือบลืมไปแล้ว นอกจากเมนูหลากหลายกว่า 67 เมนู ทั้งคาวหวานแล้วที่ Ivory Coast Almond เขาก็โดดเด่นในเรื่องของคอกเทล มอกเทลด้วยนะ ใครอยากมานั่งชิลๆ ยามค่ำคืนก็แวะมาจิบเครื่องดื่มเย็นๆ กันได้ ยิ่งวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มีดนตรีสดด้วย บรรยากาศดี เคล้าเสียงเพลง พร้อมเครื่องดื่มที่เรารักกับคนพิเศษ หรือชวนชาวแก๊งค์มาปาร์ตี้ พักผ่อน เมาท์มอย กันได้หลังจากที่เครียดสู้กับงานหนักหนาสาหัสมาทั้งอาทิตย์แล้ว
บรรยากาศร้าน Ivory Coast Almond ด้วยความที่พื้นที่กว้างขวางทำให้มีทุกบรรยากาศ มุมถ่ายรูปเยอะ และมีที่นั่งให้ได้เลือกหลากลายสไตล์ในแบบที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเป็นโซนชิลๆ ด้านนอกร่มรื่นย์ด้วยต้นไม้ใหญ่เหมาะสำหรับสายคาเฟ่เก๋ๆ หรือห้องแอร์เย็นๆ ที่ตกแต่งไว้เรียบง่าย ล้อมรอบด้วยกระจกที่เหมาะสำหรับคนชิลๆ กินข้าวกับครอบครัว หรือจะห้องส่วนตัวในตัวบ้านโบราณสุดคลาสสิก หรือสายปาร์ตี้วัยรุ่นหน่อยก็ห้องกระจกที่มีโต๊ะยาวให้ได้สนุกกับเพื่อนๆ ได้แบบไม่รบกวนใคร เรียกได้ว่า เป็นร้านอาหารที่ตอบโจทย์คนได้ทุกเจนและทุกไลฟสไตล์เลยจริง
ปิดท้ายด้วยมุมถ่ายรูป Ivory Coast Almond เพียบ ได้ทุกมุม ได้ทุกโซน ได้ทุกก้าวที่เราได้ ไปค่ะถ้าไม่อยากตกเทรนด์ ร้านอาหารสไตล์คาเฟ่รอคุณอยู่ที่เสนานิคมแค่นี้เอง ปล.หากสังเกตดีๆ เมนูอาหารที่นี่จะไม่มีเนื้อหมูเลย เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นอิสลามจ้า ซึ่งเป็นร้านอาหารฮาลาล ชาวมุสลิมสามารถแวะมากินได้เลย
IVORY Coast Almond – Homemade Café & Dining
- เสนานิคม ซอย 1 แยก 12
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 – 22.00 น.,เสาร์ – อาทิตย์ 09.00 – 22.30 น.
- โทร: 099 365 5455
- Google Map